เมื่อสุนัขที่คุณรัก... ก้าวสู่ ... วัยชรา
เมื่อสุนัขเข้าสู่วัยชรา
โดยทั่วไปเรามักได้ยินว่าสุนัขที่อายุมากกว่า 7 ปี ถือเป็นสุนัขวัยชรา แต่ในความเป็นจริง ยังมีปัจจัยเรื่องขนาดและสายพันธุ์สุนัขเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนั้น น้ำหนักตัวสุนัข อาหารที่ได้รับ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพโดยรวมของตัวสุนัขเองก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความชราของสุนัขด้วยเช่นกัน
ความชราของสุนัขอาจสังเกตได้จากการเริ่มมีขนสีขาวหรือสีเทาขึ้นรอบๆ ตา ปลายคาง และจมูก ดวงตาเริ่มขุ่น ไม่สดใจ เคลื่อนไหวเชื่องช้า หรือแข็งเกร็ง นอกจากนี้ความชรายังนำมาซึ่งความอ่อนแอ การเจ็บป่วย ตลอดจนโรคและความผิดปกติหลายๆ อย่างมาสู่สุนัข ทำให้วัยชราต้องการการดูแลเอาใจใส่ที่มากขึ้นกว่าเดิม
ปัญหาด้านสุขภาพ ที่มักพบในสุนัขสูงวัย
- ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ความผิดปกติเกี่ยวกับระดับไทรอยด์
- ระบบหมุนเวียนโลหิต เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตต่ำ
- ระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างของร่างกาย เช่น โรคข้อเสื่อม
- ระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคปริทนต์ ท้องผูก ตับอ่อนอักเสบ
- ระบบห่อหุ้มร่างกาย เช่น เนื้องอกที่ผิวหนัง โรคผิวหนัง
- ระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ภาวะไตวาย การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
- ระบบสืบพันธุ์ (โดยเฉพาะในสัตว์ที่ไม่ได้ทำหมัน) เช่น ต่อมลูกหมากโต มดลูกอักเสบเป็นหนอง เนื้องอกที่เต้านม
- ระบบทางเดินหายใจ
- ระบบประสาทและประสาทสัมผัส เช่น ต้อกระจก ต้อหิน การเสื่อมของจอประสาทตา การสูญเสียการมองเห็น หรือการได้ยิน
สิ่งบ่งชื้นถึงความผิดปกติ ที่เกี่ยวข้องกับความชรา
ลักษณะทางกายภาพเปลี่ยน
- เดินกระเผลก ขาแข็ง ขาหลังไม่มีแรง
- ไม่อยากเดิน หรือออกกำลัง
- หู-ตาฝ้าฟาง
- มีกลิ่นปาก เหงือกอักเสบ ฟันผุ
พฤตกรรมเปลี่ยน
- ความกระตือรือร้นในกิจกรรมต่างๆ ลดลง
- ปฎิสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัวลดลง
- นอนมากผิดปกติ หรือชอบนอนกลางวันและตื่นตอนดึก
- ความจำเสื่อม บางครั้งหลงทาง หรือหลงลืม
- การตอบสนองต่อการเรียกชื่อของสัตว์ช้าลง
เมตาโบลิกเปลี่ยน
- น้ำหนักลด
- สุขภาพผิวเปลี่ยน เช่น ผิวหนังแห้ง และขนหยาบกระด้าง
- อุปนิสัยการกินเปลี่ยนไป
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น
ในบางกรณีอาการที่แสดงออกเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดจากความชราเพียงอย่างเดียว ดังนั้นควรสังเกตอาการร่วมกับการปรึกษาสัตวแพทย์
ขั้นตอนการตรวจเบื้องต้นสำหรับสุนัขชรา
- ตรวจร่างกายทั่วไป (วัดอุณหภูมิ ชั่งน้ำหนัก ฟังเสียงหัวใจและปอด ตรวจหู ตา และฟัน ตรวจขนและผิวหนัง ตรวจต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น)
- ตรวจนับเม็ดโลหิต เพื่อดูภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อ การแข็งตัวของเลือด เซลล์มะเร็ง เป็นต้น
- ตรวจค่าทางชีวเคมีของโลหิต เพื่อตรวจดูภาวะการทำงานของตับไต ตับอ่อน และอวัยวะสำคัญอื่นๆ
- ตรวจปัสสาวะ เพื่อดูการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และภาวะการเกิดก้อนนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
- ตรวจอุจจาระ เพื่อตรวจหูพยาธิ โปรโตซัว และแบคทีเรียที่ผิดปกติ ตรวจดูการปนเปื้อนของเลือดในอุจจาระ ตรวจความผิดปกติของทางเดินอาหาร
- การตรวจอื่นๆ อาจมีการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น การ X-Ray ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจ Ultrasound ตามความเห็นเพิ่มเติมของสัตวแพทย์ผู้ตรวจ
การดูแลสุนัขชรา
สุนัขชราแต่ละตัวต้องการการดูแล หรือเวชภัณฑ์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเจ้าของจึงควรพาสุนัขที่เข้าสู่วัยชราไปตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง การพาสุนัขไปตรวจร่างกายบ่อยขึ่น จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรง เนื่องจากเราจะตรวจพบและแก้ไขความผิดปกติได้ตั้งแต่แรกเริ่ม
ขอขอบคุณ บทความนี้จาก บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด